สไตล์การตกแต่งบ้านความสุขของการได้ใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวที่เรียกว่า ‘บ้าน’ มักจะหนีไม่พ้นการได้ตกแต่งบ้านให้ตรงกับไลฟ์สไตล์

สไตล์การตกแต่งบ้าน ความสุขของการได้ใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวที่เรียกว่า ‘บ้าน’ มักจะหนีไม่พ้นการได้ตกแต่งบ้านให้ตรงกับไลฟ์สไตล์และความชอบของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้านมาเพื่อรีโนเวท การตกแต่งบ้านใหม่ที่เพิ่งเข้าอยู่ หรือแม้แต่การตกแต่งคอนโดมิเนียม ซึ่งมือใหม่หัดตกแต่งบ้านหลายคนอาจประสบปัญหาการแต่งบ้านในสไตล์ที่ยังไม่ถูกใจตัวเอง เราจึงขอแนะนำการแต่งบ้านในสไตล์ต่างๆ ให้คุณลองสำรวจความชอบของตัวเองดูว่า สไตล์การแต่งบ้านแบบไหนที่ใช่และเหมาะกับคุณที่สุด เรามีมาให้เลือกชอบหลากหลายสไตล์

สไตล์การตกแต่งบ้าน

แต่งบ้านสไตล์โมเดิร์น ต้องบอกว่าสไตล์การแต่งบ้านแบบโมเดิร์น เกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเป็นการแต่งบ้านที่เน้นเส้นสายแบบเรขาคณิต ตามแนวคิดแบบ Form Follows Function ให้ความรู้สึกนิ่ง ทันสมัย เรียบง่าย เนื่องจากไม่มีลวดลายที่มากเกินไป โดยการตกแต่งอาจเน้นแค่เฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็น ใช้งานบ่อย หัวใจของสไตล์โมเดิร์นคือการใช้โทนสีพื้น เช่น สีขาว ดำ เทา อาจเพิ่มความน่าสนใจด้วยโทนสีอ่อนสลับเข้ม เหมาะกับคนรักความสงบ ชอบความสะดวกรวดเร็ว ทันยุค

แต่งบ้านสไตล์มินิมอล ต้องบอกว่าการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลเป็นสไตล์การแต่งบ้านที่มาแรง ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน หรือที่เราเรียกกันจนติดปากว่า ‘น้อยแต่มาก’ เป็นการย่อยสไตล์โมเดิร์นลงมาให้ดูนิ่งและเรียบง่ายยิ่งขึ้นไปอีก ใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นแต่สามารถใช้งานได้จริง ตรงกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน นอกจากนั้นยังเน้นโทนสีอ่อนหรือสีแบบโมโนโทน ทำให้ภายในบ้านดูสะอาดตา โปร่ง และกว้างขวาง ใครที่ชอบการตกแต่งแบบเรียบง่าย ไม่เน้นความฉูดฉาด ไม่ต้องดูแลรักษาหรือทำความสะอาดมาก การแต่งบ้านสไตล์มินิมอลอาจตอบโจทย์สไตล์ของคุณ

แต่งบ้านสไตล์ลอฟท์ การแต่งบ้านสไตล์ลอฟท์เป็นสไตล์การแต่งบ้านที่ได้รับความนิยมมาหลายปี เนื่องจากมีความดิบเท่ น่าค้นหาและน่าสนใจ เน้นการโชว์โครงสร้างซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากแบบแปลนการก่อสร้างของโรงงานหรือโกดัง โดยเน้นการโชว์ผนังอิฐ โครงสร้างหลังคา โครงสร้างระบบบางส่วน ลักษณะเด่นของการแต่งบ้านสไตล์ลอฟท์โครงสร้างเพดานสูง ข้อดีของการแต่งบ้านสไตล์นี้จะทำให้รู้สึกไม่จำเจ สามารถปรับเปลี่ยนหรือเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ได้ตามสะดวก มีความแปลกใหม่และน่าสนใจ เหมาะกับคนที่ต้องการแสดงความเป็นตัวเองที่ไม่ซ้ำใคร

แต่งบ้าน สไตล์วินเทจ การแต่งบ้านสไตล์วินเทจ ไม่ต่างกับการแต่งกายหรือแฟชั่นวินเทจ หรือก็คือการนำเอาเฟอร์นิเจอร์ รูปแบบ หรือการตกแต่งที่เคยนิยมในสมัยเก่ามาใช้ มักจะมีรูปทรงที่เน้นความเว้าโค้ง ทำให้รู้สึกอ่อนโยนไม่ดิบทึบ นอกจากนั้นมักเน้นเฟอร์นิเจอร์ไม้ ทองเหลือง เหล็ก ที่ให้กลิ่นอายของช่วงเวลาในยุคก่อนๆ สีที่ตกแต่งมักเป็นโทนสีอบอุ่นหรือสีขาว เหมาะกับคนที่หลงใหลกลิ่นอายและบรรยากาศในแบบดั้งเดิม มีความสุขกับความทรงจำในอดีต

แต่งบ้านสไตล์คลาสสิก สไตล์การแต่งบ้านแบบคลาสสิกไม่ต่างจากดนตรีคลาสสิก กล่าวคือมักมีความหรูหรา แสดงถึงรสนิยมที่เหนือชั้น เน้นเฟอร์นิเจอร์ที่แสดงความหรูหรา อาทิ หินอ่อน หินแกรนิต หินขัด เป็นต้น นอกจากนั้นยังเน้นความเว้าโค้งที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย มีความอ่อนช้อยและหรูหรา ส่วนของตกแต่งมักเน้นความแวววาว อาทิ เหล็ก เงิน และทองเหลือง นอกจากนั้นยังมีการตกแต่งด้วยวัสดุไม้บางส่วน โดยมักจะเป็นไม้ที่มีลวดลาย โชว์ความหรูหราและความสวยงามของลายไม้ เหมาะกับคนที่รักความหรูหรา รสนิยมเหนือชั้น

สไตล์ป๊อปอาร์ต คนรักสไตล์การแต่งบ้านแบบป๊อปอาร์ตคือคนที่รักความสนุกสนาน ไม่จำเจ ไม่ต่างจากคนชอบฟังดนตรีป๊อบ เน้นโทนสีที่มีความฉูดฉาด สดใส แต่ไม่จัดจ้านเกินไปและเป็นโทนสีที่มีความเข้ากัน นอกจากนั้นยังเน้นลวดลายแบบกราฟฟิก แสดงถึงความทันสมัยเท่าทันยุค ความสนุกสนาน และความคิดสร้างสรรค์ ของตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ในแบบป๊อปอาร์ตคือรูปภาพ เหมาะกับศิลปินหรือคนที่มีความคิดสร้างสรรค์

5 ไอเดียแต่งบ้านสไตล์โมเดิร์น

สไตล์การตกแต่งบ้าน

1.การเลือกโทนสีกับบ้านสไตล์โมเดิร์น
การเลือกโทนสีสำหรับแต่ละห้อง นับว่าเป็นหัวใจของการแต่งบ้านสไตล์โมเดิร์นเลยก็ว่าได้ โดยสีสำหรับสไตล์โมเดิร์นนั้น ควรเลือกใช้สีโทน สีขาว สีดำ สีเทา ซึ่งให้ความรู้สึกสบายตา หรือเพิ่มความมีมิติด้วยการใช้สีโทนอ่อนสลับเข็มก็ได้ ในเรื่องของทฤษฎีสี สามารถนำแต่ละพลังของสี เข้ามาสื่อความหมายและให้ความรู้สึกต่อผู้อยู่อาศัยได้ เรามาดูกันว่าแต่ละสี สื่อความอะไร

  • สีเทาช่วยสร้างความสงบ สีเทาเป็นสีที่ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลาย จิตใจสงบ มั่นคง ดังนั้นการแต่งห้องนั่งเล่นสีเทา เหมาะกับคนรักความสงบและต้องการความผ่อนคลาย
  • สีขาวเหมาะสำหรับคนใช้ความคิด สีขาวเป็นสัญลักษณ์ของความสะอาด บริสุทธิ์ เมื่อแต่งห้องด้วยสีขาว จะทำให้รู้สึกโล่ง โปร่ง จนทำให้เกิดพื้นที่ว่างสำหรับความคิดใหม่ๆ ห้องสีขาวจึงเหมาะสำหรับคนชอบใช้ความคิด เพราะห้องสีขาวเป็นความเรียบง่ายที่ช่วยจัดกระบวนการความคิดได้ดีขึ้น
  • สีน้ำตาลพลังแห่งความอบอุ่น พลังแห่งความอบอุ่นคละกับกลิ่นไอของธรรมชาติของเจ้าสีน้ำตาลทำให้รู้สึกถึงความเป็นครอบครัว จึงทำให้สีน้ำตาลเป็นสีที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการการพักผ่อนอย่างอบอุ่น
  • สีดำพลังแห่งความอิสระ สีดำ สื่อถึงความแข็งแกร่ง อิสระและความเป็นจริงเป็นจัง สีดำสามารถแมทซ์เข้ากับทุกอย่างและดูไม่เบื่ออีกด้วย
  • สีน้ำเงินพลังแห่งความสร้างสรรค์ สีน้ำเงินเป็นสีแห่งความสงบเย็น ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย และเป็นสีที่ปลอดภัยที่สุด แถมยังช่วยกระตุ้นแห่งความคิดสร้างสรรค์ ความนึกคิด ตรรกะ ห้องนั่งเล่นสไตล์โมเดิร์นสีน้ำเงินจึงเหมาะกับคนที่ต้องการทำงาน หรือใช้ความคิดริเริ่มไอเดียใหม่ๆ
สไตล์การตกแต่งบ้าน

2.ระดับความยาวผ้าม่านก็มีผลกับบ้านสไตล์โมเดิร์น
เราอาจมองข้ามในเรื่องของความยาวผ้าม่านไป แต่จริงๆแล้ว ผ้าม่านจะทำให้ห้องของคุณดูมีความน่าสนใจมากขึ้น ห้องสไตล์โมเดิร์นควรเลือกใช้ผ้าม่านที่มีความยาวจรดพื้น หรือห่างจากพื้นเล็กน้อย และจะช่วยทำให้ห้องของคุณดูหรู แพง และปกป้องแสงแดดได้ดีอีกขึ้น

3.จัดแสงไฟเพิ่มความโมเดิร์น
แสงไฟเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ สำหรับการแต่งบ้านสไตล์โมเดิร์น ควรเลือกใช้แสงไฟสลัวๆ ไม่สว่างมากเกินไป อาจเลือกใช้โคมไฟแขวนหรือโคมไฟตั้ง จะช่วยทำให้ห้องของคุณดูอบอุ่นขึ้น มาดูเทคนิคการจัดแสงไฟสำหรับแต่ละห้องให้บ้านของคุณดูโมเดิร์นและแสงอบอุ่นกัน

  • การจัดไฟห้องนั่งเล่น การจัดไฟในห้องนั่งเล่นนิยมจัดไฟทั้งแบบเพื่อให้แสงสง่างและเพื่อตบแต่งให้สวยงาม ไฟสำหรับความสว่างควรจัดไฟที่ให้ความกระจายทั่วพื้นที่ อย่างไฟเพดาย หรือเพิ่มโคมไฟเป็นจุดๆไป ในด้านของไฟเพื่อตบแต่งอาจใช้ไฟใต้ตู้ ไฟส่องตามชั้นเพื่อตบแต่งให้บ้านดูอบอุ่นขึ้น ทริค การจัดไฟห้องนั่งเล่น ควรติดตั้งระบบไฟที่สามารถปรับระดับความสว่างได้
  • การจัดไฟห้องนอน ห้องนอนเป็นที่ๆพักผ่อนและควรผ่อนคลายที่สุดในบ้าน ควรใช้ไฟที่สว่างเพียงพอแต่ไม่จ้าจนเกินไป และควรติดตั้งไฟเฉพาะจุดด้วย เช่น ไฟหัวเตียงไว้อ่านหนังสือ หรือไฟในตำแหน่งต่างๆที่ใช้งานบ่อย อย่างโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงาน
  • การจัดไฟห้องครัว ห้องครัวเป็นห้องที่ต้องการแสงสว่างมากสุดในบ้าน ทั้งไฟจากหลอดไฟและไฟจากธรรมชาติ เพราะนอกจากให้แสงสว่างแล้ว ยังช่วยฆ่าเชื้อต่างๆได้อีกด้วย ไฟในห้องครัวมีตั้งแต่หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ทั่วไป จนถึงไฟตบแต่งต่างๆ
  • การจัดไฟห้องน้ำ ห้องน้ำควรมีแสงสว่างมากพอเพื่อการมองเห็นและลดความอับชื้น ในตอนกลางวันควรมีแสงไฟจากธรรมชาติส่องเข้ามาในห้องน้ำได้ ในขณะที่ตอนกลางคืนก็ควรติดไฟเพื่อการมองเห็นได้อย่างชัดเจน

4.ผนังก่ออิฐ ด้านเดียวกับสไตล์โมเดิร์นที่ไม่เคยดูล้าสมัย
ไม่ว่า สไตล์การตกแต่งบ้าน จะเปลี่ยนยุคสมัยไปนานเพียงไหน แต่การออกแบบสไตล์โมเดิร์นสามารถเลือกใช้ผนังก่ออิฐ หรือวอล์เปเปอร์ก่ออิฐเข้ามาใช้เพียงด้านใดด้านหนึ่ง ในขณะที่อีกฝั่งเป็นโซนทานข้าว หรือโซนนั่งเล่นสมัยใหม่ และโทนสีขาวของห้องก็จะทำให้โซนทานข้าวดูอบอุ่นมากขึ้น

5.เลือกเฟอร์นิเจอร์สไตล์เรียบง่าย
บ้านสไตล์โมเดิร์นควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เรียบง่าย แต่อาจเพิ่มความโดดเด่นด้วยฟังก์ชันการใช้งาน อาทิ การนำระบบสมาร์ทโฮมเข้ามาใช้กับการตกแต่งบ้าน และเฟอร์นิเจอร์ควรเลือกสีให้เข้ากับโทนสีของห้องด้วย

5 วิธีแต่งบ้านสไตล์มินิมอล

แต่งบ้านสไตล์มินิมอล

1.เพิ่มความอบอุ่นให้บ้านสไตล์มินิมอลด้วยโทรสี Earth Tone
โทนสีของบ้าน ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะสื่อ ถึงอารมณ์และบรรยากาศของบ้าน การจัดแต่งบ้านสไตล์มินิมอลควรเลือกสีเอิร์ธโทน หรือสีโทนอุ่น ที่ดูเรียบง่ายและผ่อนคลาย อย่างเช่น สีน้ำตาล สีครีม สีเทา สีขาว หรือสีโทนธรรมชาติอย่าง สีเขียว สีฟ้า ในเฉดที่ไม่ฉูดฉาด หรือจะเป็นสีโทนอ่อน ๆ นั้นเอง บ้านเดี่ยว

2.แบ่งพื้นที่ให้ตัวบ้านโปร่งด้วยแผงไม้สีอุ่น พร้อมเลือกเฟอร์ฯไม้หรือเหล็ก น้อยชิ้น แต่ฟังก์ชันเยอะ
การทำให้บ้านดูโปร่ง และสบายตาก็ถือเป็นวิธีหนึ่งที่จะทำให้บ้านดูเรียบง่าย มักกั้นห้องเพื่อแบ่งพื้นที่ให้ดูเป็นสัดส่วนและโปร่ง อาจใช้ไม้ระแนงสีอ่อนมากั้นเป็นฉากเล็กๆ เพื่อแบ่งโซนใช้งาน และอีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ

เฟอร์นิเจอร์สำหรับตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอล ที่นิยมใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้หรือเหล็ก ซึ่งควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังก์ชันที่หลากหลาย อย่างเช่น เคาน์เตอร์บาร์ในห้องครัว ที่มักนิยมใช้เป็นชั้นเก็บของไปในตัว และกลายเป็นที่เตรียมมื้ออาหาร พร้อมเสิร์ฟสำหรับทุกคนไปในตัว แต่ต้องไม่ลืมว่า การเลือกเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้น ควรต้องมีสีที่อยู่ในโทนเดียวกันกับสีบ้านด้วย

ตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลด้วยการเติมธรรมชาติเข้าบ้านคือวิถีชาวมินิมอล

3.ตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลด้วยการเติมธรรมชาติเข้าบ้านคือวิถีชาวมินิมอล
การเติมสีเขียวให้บ้าน นับว่าเป็นหนึ่งสิ่งที่ต้องมีในบ้านสไตล์มินิมอล เพราะนอกจากการผ่อนคลายแล้วต้นไม้ ยังช่วยฟอกอากาศได้อีกด้วย และในบางคนยังมีความเชื่อเรื่องต้นไม้มงคล เรียกได้ว่านอกจากเป็นต้นไม้แต่งบ้าน ให้ดูผ่อนคลายแล้วยังช่วยเพิ่มความสบายใจให้กับผู้อาศัยได้อีก

แต่ถ้าไม่ชอบต้นไม้อาจ ตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลด้วยกรอบรูป หรือแจกันดอกไม้โทนสีอุ่นเพื่อเพิ่มเสน่ห์ให้กับตัวบ้าน นิยมนำต้นไม้และของประดับชิ้นเล็กๆมาวางบริเวณโถงบันได เพื่อผ่อนคลายระหว่างการกลับมาบ้าน หรือจะทำชั้นไม้ไว้บริเวณห้องรับแขกก็สามารถวางได้ทั้งต้นไม้และกรอบรูปแต่เจ้าของบ้านอาจ ต้องหมั่นทำความสะอาดฝุ่น เพื่อการหมุนเวียนของสภาพอากาศที่ดี

4.ใช้แสงธรรมชาติด้วยการเปิดช่องให้แสงแดดส่องผ่าน
เนื่องจากบ้านสไตล์มินิมอลเน้นความอบอุ่น มักนิยมใช้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาในบริเวณบ้านและใช้ม่านแบบบางเพื่อบังสายตาผู้คนบริเวณนอกบ้าน นอกจากจะช่วยลดแสงแดดที่เข้ามาในบ้านแล้ว ม่านลักษณะนี้ยังเพิ่มเงากระทบให้มิติในตัวบ้าน และยังทำให้บ้านดูโปร่ง โล่ง สบายตามากขึ้น

5.เลือกโคมไฟรูปทรงเรียบง่ายและสีที่คุมโทนเติมบรรยากาศห้องสไตล์มินิมอล
นอกจากการรับแสงธรรมชาติ ผ่านหน้าต่างที่มีในหลายๆ มุมของบ้านแล้ว การมีโคมไฟเล็กๆในแต่ละบริเวณที่จำเป็นต้องใช้แสง อย่างเช่นไฟบริเวณหัวเตียงที่ใช้เล่น สมาร์ทโฟนหรืออ่านหนังสือก่อนเข้านอน ควรเลือกโคมไฟที่มีโทน สีเดียวกับห้องนอน และมีรูปทรงเรียบง่ายเพื่อให้ดูกลมกลืน กับห้องสไตล์มินิมอลของคุณ